top of page

My Story

ประกายของเค้า...  จุดประกายให้ชีวิตของชั้น...

          เรื่องราวของดิฉันอาจไม่ได้รับรางวัล  หรืออาจจะไม่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าประกวดด้วยซ้ำไป  แต่ดิฉันก็แค่อยากจะแบ่งปันประสบการณ์ชีวิตให้ทุกคนได้อ่าน
          ดิฉันได้เพชรเม็ดแรกในชีวิตเมื่อประมาณ 17 ปีก่อน  ได้มาเป็นของขวัญพร้อมกับนาฬิกา GUCCI เรือนทอง 1 เรือน เงินสดห้าหมื่นบาท และแหวนเพชรกะรัตกว่าวงนี้

          เงินสดก้อนนั้นหมดลงภายใน 3 สัปดาห์    นาฬิกา GUCCI บัดนี้นอนตายเขียวอยู่ในลิ้นชัก  
          แต่เพชรเม็ดนี้ทำไมมันกลับสวยขึ้นเรื่อยๆ  มองเมื่อไรก็มีความสุข  เวลาประชุมแล้วเบื่อๆ ก็หมุนแหวนเข้ามาด้านในแล้วนั่งดูเล่น พอหายเซ็งก็ตั้งใจประชุมต่อ

          ดิฉันได้เข้าทำงานกับบริษัทใหญ่และดีมากบริษัทหนึ่ง  แต่ลึกๆแล้ว  ความฝันอันสูงสุดคือการทำธุรกิจส่วน  ตัวถึงแม้ว่าบริษัทนี้จะให้เงินเดือนดีก็ตาม  แต่ทำไงดี  ดิฉันมาจากครอบครัวข้าราชการธรรมดาและไม่มีไอเดียเรื่องการทำธุรกิจเลยแม้แต่น้อย

           ผลของเงินเดือนดีที่ทำอยู่หลายปีนั้นก็คือ  เสื้อผ้าเต็มตู้  รองเท้า กระเป๋า  เต็มบ้านนี่เราบ้าไปแล้วหรือยิ่งเก็บบ้านไปเรื่อยๆก็ยิ่งเจอขยะที่เราซื้อมามูลค่ามหาศาล  ไม่เหลือเงินเก็บเลย  ได้รถมาคันนึงเกือบล้าน  ปัจจุบันถ้าขายได้สามแสน!!!

           ดิฉันนั่งมองตัวเองและขยะพวกนั้นและได้ตระหนักแล้วว่า  

คนโง่เท่านั้นที่จะใช้เงินแบบนี้

คนฉลาดต้องใช้เงินเป็น  และการเก็บเงินก็ไม่ฉลาดเสมอไปเพราะอนาคต  ค่าของมันอาจกลายเป็นแค่เศษเงิน
       
        “ คนฉลาด  ใช้เงินเท่าไรก็ได้  แต่ใช้ซื้อสิ่งที่มีค่า  และงอกเงยได้ ”
 
        ซื้อที่คอนโดดีมั้ย  เก็งกำไร  แต่ถ้าขายไม่ได้และไม่มีใครเช่าล่ะ   ซื้อที่ดินดีกว่า  แต่ถ้ามันไม่บูมอย่างที่คิด  

หรืออยู่ๆทางด่วนตัดผ่านจะทำยังไง  ซื้อหุ้นน่ะเหรอ  อ๋อ  เจ๊งมาแล้ว  

 ดิฉันเหลือบมองแหวนที่นิ้วตัวเองแล้วก็ได้คำตอบ

ดิฉันเริ่มซื้อเพชรที่ราคาดีๆ และสะสมมาเรื่อยๆ  ดิฉันมีความสุขมากและหลงรักเค้าเข้าอย่างเต็มเปา  

ไม่ใช่แต่คนรวยเท่านั้นนะที่จะซื้อได้  ดิฉันไม่รวยยังซื้อเลย  ดิฉันเชื่อมั่นในความเป็นอมตะของเพชร

ใครจะว่าดิฉันเป็นพวกวัตถุนิยม  ดิฉันก็ไม่สน  คนเรามันอยู่ในสังคม  จะไม่มีเลยก็ไม่ได้จริงมั้ย    

     

“เพชร” มีอำนาจบางอย่างเกินกว่าที่คิด

ตอนดิฉันไปอเมริกา เดินทางคนเดียว    คนต่างชาติบางคนถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองซักถามอยู่นาน   คนที่ต่อคิวเริ่มมีอาการงุ่นง่าน    

พอถึงคิวดิฉัน  ดิฉันยืนเกาะโต๊ะเค้าพร้อมยื่นหนังสือเดินทางให้      

เจ้าหน้าที่เค้าเอานิ้วเขี่ยแหวนดิฉันเล่นแล้วก็บอกว่า  “ ยินดีต้อนรับสู่อเมริกา “   เห็นฤทธิ์รึยังล่ะ


             ดิฉันยังคงสะสมเพชรต่อมาเรื่อยๆจนมาถึงตอนนี้    “ดิฉันกลายเป็นแม่ค้าเพชรไปแล้ว!!!!!”  

ยังไม่อยากเชื่อตัวเองเลยว่าคนที่ไม่รู้เรื่องธุรกิจเลยจะสามารถทำตรงนี้ได้  

  
ดิฉันได้พบกับสิ่งที่สวยงาม  ได้เห็นสามีที่ขับรถจากต่างจังหวัดเพื่อมาซื้อเพชรเป็นของขวัญให้ภรรยา  

พ่อซื้อเพชรให้ลูกสาวที่นั่งรอยิ้มจนแก้มปริ    ลูกชายที่ซื้อเพชรให้แม่   

หลายๆครั้งที่ดิฉันต้องน้ำตาไหลหลังจากลูกค้ากลับไป  ไม่ใช่เพราะได้เงินนะ  แต่เพราะตื้นตันจ้ะ


             ดิฉันเริ่มขายเพชรมาระยะหนึ่งแล้ว  ไม่นานเท่าไร   ยังตอบไม่ได้ว่าประสบความสำเร็จงดงามมั้ย     รู้แต่ว่าดิฉันมีความสุขมาก

มันไม่ได้เกิดจากความพยายามจากดิฉันเพียงฝ่ายเดียวจึงจะสำเร็จ  แต่สิ่งที่ผลักดันดิฉันมาโดยตลอดก็คือสเน่ห์ของเค้านี่แหละ  เค้าดัดนิสัยการใช้เงินและจัดระเบียบให้ชีวิตดิฉัน เค้าให้เส้นทาง  ให้อาชีพ  อย่างนี้จะไม่ให้รักได้ยังไง       

My little black diamond... 

Thank you very much...

ขอบคุณที่คอยเป็นกำลังใจ

และอยู่เคียงข้าง

ธุรกิจของดีฉันเป็นธุรกิจเล็ก ๆ จะประสบความสำเร็จแค่ไหนยังไม่รู้ แต่ดิฉันมั่นใจว่าประกายอันเจิดจรัสของเค้านี่แหละ  

จะนำทางให้ดิฉันได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆและก้าวต่อไปอย่างมีความสุขกับหนทางที่ดิฉันเลือก

bottom of page